☎ 0960-916-709 | หากคุณกำลังมองหาเครื่องเล่นเกมย้อนยุค เราคือคำตอบ

Super Console X4 Plus

ประสบการณ์เกมและความบันเทิงขั้นสุด

4300.00฿3600.00฿

รายละเอียดสินค้า

1. เล่นได้ทันทีแบบ Plug and Play!
มาพร้อมเกมในตัว 64GB (40,000 เกม) และ 256GB (60,000 เกม) พร้อมทั้งสามารถเพิ่มเกมได้อีก นอกจากนี้ยังรองรับซีรีส์เกมกว่า 60 แบบ และเพิ่มอีมูเลเตอร์ได้ไม่จำกัด รับรองความสนุกไม่มีวันหมด!

2. คอนโซล 3 ระบบในเครื่องเดียว – Kinhank Super Console X4 Plus
รวมพลังระบบล่าสุด EmuELEC 4.6, ระบบ Android TV และระบบมัลติมีเดียเสียงและวิดีโอไว้ในเครื่องเดียวเล็กกะทัดรัด แต่ทรงพลังเกินคาด!

3. รองรับการแสดงผล 4K HD
ผ่านพอร์ต HDMI สามารถเชื่อมต่อกับทีวี, จอมอนิเตอร์ หรือโปรเจคเตอร์ (หมายเหตุ: ฟังก์ชันนี้ใช้ได้เฉพาะในโหมด Android TV)

4. รองรับการเล่นหลายคน
สินค้ารุ่นมาตรฐานมาพร้อมจอย 2 ตัว (ใช้ถ่าน AAA จำนวน 2 ก้อน/ไม่รวมในกล่อง) หากเลือกซื้อรุ่น 4 จอย จะได้รับ USB Hub ฟรี รองรับผู้เล่นสูงสุด 4 คนพร้อมกัน

5. รองรับ 26 ภาษาในตัว
เช่น อังกฤษ รัสเซีย สเปน ฝรั่งเศส โปรตุเกส อาหรับ เกาหลี ญี่ปุ่น จีนดั้งเดิม และอื่น ๆ สามารถสลับภาษาได้ในเมนูการตั้งค่า

6. ชิป S905x4 ประสิทธิภาพสูง
ขับเคลื่อนด้วยชิปสมดุลและทรงพลัง เหมาะกับการจำลองเกมจาก PS1, PSP, Dreamcast, N64, Sega Saturn และอื่น ๆ เล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ

7. พัดลมระบายความร้อนดีไซน์เฉพาะ
ช่วยควบคุมอุณหภูมิของชิปให้คงที่ราว 50°C ทำให้เล่นเกมได้ต่อเนื่องยาวนานโดยไม่กระตุกหรือล่าช้า

เกมมากกว่า 60,000 เกม – Plug and Play
เลือกได้ทั้งรุ่น 64GB (40,000 เกม) และรุ่น 256GB (60,000 เกม) มาพร้อมระบบบันทึกความคืบหน้าเกม เชื่อมต่อทีวีง่าย ๆ สนุกกับทั้งเกมเดี่ยวและเกมหลายคนเหมือนย้อนวันวาน

● อีมูเลเตอร์กว่า 60 ตัวในเครื่อง
สนุกไม่รู้จบกับเกมดังจากหลายค่าย เช่น PlayStation, Naomi, Dreamcast, Nintendo DS, Capcom, NeoGeo, Mega Drive และ Sega

● ระบบ EmuELEC 4.6 รุ่นใหม่
เสถียรกว่าเดิม รองรับเกมได้หลากหลายขึ้น และมอบประสบการณ์เล่นเกมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น

● อัปเกรดชิป Amlogic S905X4
CPU Quad-core A55 พร้อม GPU Mali-G31MP2 แบบ Dual-core ขุมพลังที่ทำให้เกมทุกเกมลื่นไหลไม่มีสะดุด

● พัดลมระบายความร้อนดีไซน์พิเศษ
ป้องกันความร้อนสูงเกิน 70°C ที่อาจทำให้เกมกระตุกหรือค้าง โดยควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ 50°C เพื่อการเล่นที่เสถียรต่อเนื่อง

● 3 ระบบในเครื่องเดียว
รวม EmuELEC 4.6 เกม, Android TV, และ มัลติมีเดียเสียง/วิดีโอ เอาไว้ในเครื่องเดียว เล่นเกมหรือสตรีมหนัง HD ได้ทั้งวัน

● รองรับการแสดงผลสูงสุด 8K
ให้ภาพคมชัดสุดยอดระดับ 8K@24fps และ 4K@60fps รายละเอียดสมจริงทุกมุมมอง (เฉพาะโหมด Android TV)

● การเชื่อมต่อความเร็วสูง
มาพร้อม Gigabit Ethernet 1000M, Dual WiFi, BT4.0 และพอร์ต USB รองรับการโอนข้อมูลที่รวดเร็วทันใจ

● รองรับผู้เล่นหลายคน
เล่นได้ตั้งแต่ 1–5 คน เหมาะสำหรับปาร์ตี้เกมไนท์กับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน

การจัดส่ง
เราจัดส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อไปยังหลายประเทศ แต่บางพื้นที่อาจไม่สามารถจัดส่งได้

  • วิธีการจัดส่ง: Flash Express

  • ระยะเวลาจัดส่ง: ภายใน 3-7 วันทำการ

  • การคืนสินค้า: ง่ายและสะดวกภายใน 30 วัน

การคืนสินค้า
หากคุณไม่พอใจกับสินค้า คุณสามารถคืนสินค้าได้ภายใน 30 วัน เรามีนโยบายการคืนสินค้าที่ง่ายและไม่ซับซ้อน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในส่วน การจัดส่ง & การคืนสินค้า

รายชื่อเกมในคอนโซลเกมเรโทร

ด้วยเครื่องคอนโซลที่ทรงพลังและหลากหลายของเรา รวมถึง รายชื่อเกมเรโทรครบชุด คุณจะได้ดื่มด่ำกับโลก 8-bit และ 16-bit ที่คลาสสิก และขยับไปยังเกมจาก PS1, PSP, Dreamcast, N64, Sega Saturn และอื่น ๆ อีกมากมาย เราได้คัดเลือก 10 เกมเรโทรที่ต้องเล่น จากรายการของเรา ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในโลกเกมเรโทรของคุณ!


10 เกมเด่นในรายชื่อคอนโซลเรโทรของเรา

  1. Super Mario Bros. (NES)
    "Super Mario Bros." (1985) เป็นเกมแพลตฟอร์มที่ปฏิวัติวงการเกม ช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมด้วยการออกแบบด่านที่สร้างสรรค์ การควบคุมง่าย และดนตรีติดหู ผู้เล่นต้องพา Mario ฝ่าด่านใน Mushroom Kingdom เพื่อช่วยเจ้าหญิง Toadstool จาก Bowser ทำให้ Mario กลายเป็นตัวละครไอคอนของโลกเกม

  2. The Legend of Zelda: Ocarina of Time (Nintendo 64)
    "Ocarina of Time" (1998) เป็นเกมแอ็กชัน-ผจญภัย 3D ที่สำคัญ นำระบบ Z-targeting มาใช้ต่อสู้ โลกที่ออกแบบอย่างละเอียด และเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา ผู้เล่นรับบท Link สำรวจ Hyrule แก้ปริศนาและต่อสู้กับศัตรูเพื่อช่วยเหลืออาณาจักร

  3. Sonic the Hedgehog (Sega Genesis)
    วางจำหน่ายปี 1991 "Sonic the Hedgehog" นำความเร็วและสไตล์มาสู่เกมแพลตฟอร์ม มาสคอตสีน้ำเงินของ Sega วิ่งผ่านด่านสีสันสดใส เก็บวงแหวนและต่อสู้กับ Dr. Robotnik ด้วยเกมเพลย์ที่รวดเร็ว กราฟิกสดใส และดนตรีสนุกสนาน

  4. Final Fantasy VII (PlayStation)
    "Final Fantasy VII" (1997) เป็นเกม JRPG ที่โด่งดังทั่วโลก เรื่องราวของ Cloud Strife ต่อสู้กับ Shinra Corporation และ Sephiroth ด้วยกราฟิก 3D และฉากคัทซีนสุดอลังการ ทำให้เกมนี้เป็นมรดกสำคัญของแนว RPG

  5. Tetris (Game Boy)
    "Tetris" (1989) กลายเป็นปรากฏการณ์บน Game Boy เกมง่าย ๆ แต่ติดใจผู้เล่น เกี่ยวกับการจัดเรียงบล็อกที่ตกลงมา เกมนี้พิสูจน์ว่าเกมพกพาสามารถเป็นตลาดใหญ่

  6. Street Fighter II (Arcade/SFC)
    "Street Fighter II" (1991) ปฏิวัติเกมต่อสู้ด้วยระบบสมดุล ตัวละครหลากหลาย และเกมเพลย์แข่งขัน ผู้เล่นเลือกนักสู้แต่ละคนที่มีท่าโจมตีเฉพาะตัว ผลกระทบต่อเกมมัลติเพลเยอร์และวงการอีสปอร์ตอย่างมาก

  7. Pac-Man (Arcade)
    "Pac-Man" (1980) เกมอาร์เคดคลาสสิก ผู้เล่นเดินในเขาวงกต กินจุดเล็ก ๆ และหลบผี ตัวละครและดนตรีกลายเป็นวัฒนธรรมป๊อปที่โด่งดังข้ามยุค

  8. Donkey Kong (Arcade)
    วางจำหน่ายปี 1981 "Donkey Kong" แนะนำโลกให้รู้จัก Mario ผู้เล่นปีนสิ่งก่อสร้างและหลบอุปสรรคเพื่อช่วยหญิงสาวจากลิงยักษ์ Donkey Kong การออกแบบด่านที่ท้าทายและสร้างสรรค์

  9. Chrono Trigger (Super Nintendo)
    "Chrono Trigger" (1995) โดดเด่นด้วยเรื่องราวการเดินทางข้ามเวลา ระบบต่อสู้แบบ Active-Time และตัวละครหลากหลาย ผู้เล่นผจญภัยในหลายยุคเพื่อป้องกันภัยพิบัติระดับโลก เป็นเกม RPG ที่ต้องเล่นสำหรับแฟนเกมเรโทร

  10. Metroid (NES)
    "Metroid" (1986) แนะนำโลกขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความลับและไอเทม ผู้เล่นรับบท Samus Aran สำรวจดาว Zebes ป้องกันแผนของ Space Pirates เกมเน้นการสำรวจและออกแบบบรรยากาศ มีอิทธิพลต่อแนว Metroidvania


เกมเหล่านี้ไม่ใช่แค่เกมคลาสสิก แต่เป็น จุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์วิดีโอเกม แต่ละเกมมีเอกลักษณ์ที่ส่งผลต่อเกมสมัยใหม่ ถึงแม้ 10 เกมนี้จะเป็นตัวเลือกจากทีมงาน Kinhank แต่คุณสามารถ สำรวจคอลเลกชันกว่า 60,000 เกม ในรายชื่อคอนโซลเรโทรของเราได้ตามใจชอบ!